top of page
  • สุริ มาลา

รีวิว หนัง T2 Trainspotting: 20 ปีกับการกลับมาทวงบัลลังก์ของพวกวิสกี้ขี้ยา


แน่นอนว่าถ้าย้อนไปเมื่อ 20 ปีก่อน หนังคัลท์ฟอร์มเล็กเงินทุนงั้น ๆ อย่าง Trainspotting แทบไม่อยู่ในความทรงจำของคอหนังบ้านเราเหมือนกับปรากฏการณ์ของวัฒนธรรมบริทป๊อบอย่างวง Oasis หรือ Blur แต่ในโมงยามนี้ มันกลับกลายเป็นหนังอินดี้ภาคต่อที่คนดูหนังบ้านเราเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ หลังจากที่ถูกเลื่อนฉายและอยู่ในสภาวะคลุมเครือมาพักใหญ่ ประกอบกับมีกระแสกดดันอย่างมากจนถึงขนาดมีแคมเปญลงชื่อบน Change.org ในที่สุดทาง โซนี พิคเจอร์ส กับทาง House RCA ก็ยอมซื้อลิขสิทธิ์นำเข้ามาฉายภายใต้โปรเจ็กต์ SONY@HOUSE 2017 ซึ่งจะนำหนังของค่าย Sony Pictures Classic และ Tristar Pictures มาฉายปีละ 3-4 เรื่อง

สำหรับตัวหนังเดิมทีมันดัดแปลงมาจากนิยายเรื่อง Porno ของ เออร์วิน เวลช์ เมื่อปี 1993 พลอตเรื่องหลัก ๆ มันเล่าเรื่องของแก๊งเด็กหนุ่มขี้ยา 4 คนในสก๊อตแลนด์ ที่ไม่มีเป้าหมายใดในชีวิตและใช้เวลาวัน ๆ หมดไปกับมิตรแท้อย่าง เฮโรอีน เซ็กซ์ และฟุตบอล เดินตามปรัชญาหอมหวานอย่าง ‘กินขี้ปี้นอนสไตล์’ บนแฟลตรูหนูในเอดินเบิร์ก เหมือนกับชื่อหนัง Trainspotting ซึ่งเป็นแสลงหมายถึงพวกที่วัน ๆ เอาแต่นั่งเหม่อมองรถไฟวิ่งผ่านไปโดยไม่ทำห่าอะไร โดยมีตัวเดินเรื่องหลัก ๆ คือ มาร์ค เรนตัน, ซิคบอย, สปั๊ด และ เบ็กบี้ ทีนี้พอนิยายเรื่องนี้ถูกจับมาสร้างเป็นหนังในปี 1996 ก็กลายเป็นใบแจ้งเกิดของผู้กำกับ แดนนี บอยล์ และ ยวน แม็กเกรเกอร์ ในบทบาทของ เรนตัน เด็กหนุ่มสก๊อตส์ที่ตัดสกินเฮดออกมาได้หล่อที่สุดคนหนึ่งในยุค 90

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ Blusterfilms

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

bottom of page