top of page
  • สุริ มาลา

รีวิว The Conjuring 2 คนเรียกผี 2 | ภาคต่อของสองผัวเมียปราบผี

ภาคต่อของคนเรียกผี สองสามีภรรยานักปราบผีเจอเคสใหม่ที่น่ากลัวกว่าเก่า

คืนก่อน เรียกความทรงจำกลับคืนมาด้วยการนั่งดูภาคแรกของง “The Conjuring” เรื่องราวของสองสามีภรรยาสกุลวอร์เรนที่นำมาจากเรื่องจริงของคนที่เฝ้าตระเวณบรรยายเรื่องปราบผีกรณีต่างๆ พร้อมเทปเสียง ภาพและวิดีโอที่เก็บไว้เป็นหลักฐานพร้อม กลายเป็นวัตถุดิบชั้นดีสำหรับการจะทำหนังสยอขวัญหลายภาค จากที่เคยมีภาคแรก ตอนนี้ก็มีภาคสองออกมาแล้ว ก็ “The Conjuring 2” ที่ผมไปชมมาวันนี้ไงภาคแรกของ “คนเรียกผี” ถือว่าทำไว้ค่อนข้างดี สร้างมาตรฐานใหม่ของหนังสยองขวัญจากฝั่งฮอลลีวูดไปด้วยในตัว ได้รับการกล่างขวัญถึงค่อนข้างมาก จนเมื่อมีการสร้างภาคต่อ มันจึงเป็นที่ติดตามว่าจะออกมาแป้กแบบหนังภาคต่อในระยะหลังๆ หรือไม่ ซึ่งผลก็ปรากฏว่ามันออกมาดีเกินคาดจากการฉายรอบ Sneak ในประเทศไทยก่อนที่รอบสื่อฯ จะมาถึงเสียอีก สองสามีภรรยาที่ดูจะเข้ากันได้ดีทั้งด้านความรักและหน้าที่การงาน โดยเฉพาะ Lorraine Warren (Vera Farmiga) ภรรยาผู้ที่สามารถเข้าทรงมองเห็นภูติผีต่างๆ ได้ ส่วน Ed (Patrick Wilson) สามีก็มีความรู้เป็นอย่างดีในการสืบค้นและปราบผี แถมยังมีทีมงานช่วยค้นหาสัญญาณ เก็บภาพนิ่งและคลิปวิดีโอต่างๆ ด้วยความตั้งใจอันดีที่จะช่วยผู้คนที่ประสบเหตุเลวร้ายจากเหล่าภูติผีปิศาจที่มารังควานให้กลับไปมีชีวิตอย่างปกติสุขอีกครั้ง ทุกครั้งพวกเขาตั้งใจจะไม่เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอีก ..แต่ก็ไม่วาย ครั้งนี้ก็เช่นกัน พวกเขาต้องไปช่วยเหลือครอบครัวฮ็อดจ์สันในอังกฤษจากการถูกทำร้ายโดยผีชราในบ้านที่มีแม่กับลูกๆ ทั้งสี่ และดูเหมือน เจเน็ต (Madison Wolfe) จะเป็นเด็กสาวที่ถูกผีกระทำอย่างหนักหน่วงที่สุด ขณะที่ตัวของพวกเขาก็ต้องผจญกับผีร้ายอีกตนที่ตามมาทำร้ายต่างๆ นานาหนังภาคนี้มีความยาวถึง 133 นาที ถือเป็นหนังผีที่ยาวมาก เทียบกับภาคที่แล้ว มันมีความยาว 112 นาทีเท่านั้น

เมื่อไปพบกับหนังด้วยตาของตัวเองในโรง จึงได้พบว่าหนังภาคนี้มีพยายามจะลบจุดด้อยในหนังภาคแรกอย่างหมดจด อะไรที่ดูสั้น ดูห้วนไป หรือหลอนไม่มากพอ ภาคนี้เอาอยู่เสียเกือบหมดภาคก่อนที่หลายคนว่าน่ากลัวแล้ว ก็ยังพบว่า มีความหลอนจริงจังแค่ช่วงเดียวแถมยังดูจะจบง่ายดายเกินไป ภาคนี้ James Wan เลยจัดหนักยิ่งกว่าเก่า แม้นี้จะเป็นเรื่องราวที่อ้างอิงจากเหตุการณ์จริง


สำหรับคนกลัวผี คราวนี้ก็จะได้ร้องกรี๊ดกันสุดเสียง เพราะผีใน ‘The Conjuring 2’ ดูท่าจะดุโหดกว่าเดิม หลอกหลอนไม่รู้จักหยุดหย่อน เล่นกับสถานการณ์ให้คนดูเดาทางกันไม่หยุด แม้แต่ฉากที่ดูผ่อนคลายแล้วก็เถอะ ก็ไม่ชวนให้รู้สึกไว้วางใจเลยแม้สักนิด

แต่สำหรับคนไม่กลัวผี (โดยเฉพาะผีที่อยู่ในหนัง) ก็อาจจะพบว่ามันเป็นหนังผีที่สนุกดี กับการนั่งสังเกตและเดาใจคนเล่าว่าจะเอาผีออกมาหลอนตอนไหนและหลอกยังไง อาจมีเดาผิดเดาถูกไปบ้าง ก็ต้องยกความดีความชอบให้กับผู้กำกับฯ หนังใช้การไต่ระดับความน่ากลัวตามระดับการคุกคามของผี สอดแทรกมาด้วยการเซอร์ไพรส์ที่คนดูไม่ทันได้คาดคิดว่าจะเจอะเจอ ยังไม่พอ มุมกล้องต่างๆ ที่ถ่ายทอดภาพออกมายังชวนให้ผู้ชมกลอกตาไปมาเพื่อสำรวจจะพบอะไรที่ผิดปกติที่มุมไหนของจอหนังบ้างมันเป็นหนังตุ้งแช่ที่เสริมทัพด้วยฉากและดนตรีที่ชวนขนหัวลุก ถ้าคุณไม่เคยดูตัวอย่างหนังมาก่อนเลย นี่คงเป็นความสดใหม่สำหรับคุณ เพราะฉากไหนที่ผมเคยเห็นมาแล้ว ผมก็จะไม่รู้สึกตกอกตกใจอะไร ขณะที่บางฉาก เราไม่รู้มาก่อนว่าจะเจออะไร ฉากนั้น เราจะตกใจกับมันได้มากสุดครับ ครึ่งแรกของหนัง (อาจจะถึง 2 ใน 3 ของหนังด้วยซ้ำ) ค่อนข้างมีความเป็นหนังผีขี้หลอกคนอยู่สักหน่อย แต่หนังก็ความเป็นหนังนักสืบอยู่ไม่น้อย เมื่อคนเขียนบทเลือกจะให้มีช่วงเหตุการณ์ที่พลิกกลับไปมาครึ่งหลังอาจจะมีช่วงหลอนน้อยลง และหันไปเล่นกับการดำเนินเรื่องแบบระทึกขวัญมากขึ้น กลับกลายเป็นผู้ชมต้องนั่งลุ้นเอาใจช่วยจนสุดตัวแต่เราไม่ลืมแน่นอน ว่านี่กำลังดูหนังผีอยู่… ความยาวของหนังที่เพิ่มขึ้นเกิดมาจากหลายๆ ส่วนด้วยกัน ส่วนหนึ่งที่หนังสนใจที่จะเพิ่มความลึกให้กับตัวละครมากขึ้น เห็นได้จากให้เวลากับดราม่าครอบครัว ให้เวลาคนดูได้พักกับฉากผ่อนคลายๆ แต่ก็ใช่ว่าเราจะเลิกระแวงนะส่วนผสมหลายๆ อย่างอาจทำให้หนังดูยืดไป แต่มันก็ทำให้ทรงหนังดูหนักแน่นกว่าเดิม อีกอย่างหนึ่ง คือ ไดอะล็อกช่วงท้ายของหนังนั้นดีมาก


ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ Blusterfilms


ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

bottom of page